หัวข้อที่ 3 ตัวอย่างการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พรบ. คอมพิวเตอร์

ตัวอย่างการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พรบ. คอมพิวเตอร์

 

 

 

 

ปัจจุบัน เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตและสารทนเทศ (ไอที) ได้เข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งด้านการค้า การศึกษา การติดต่อสื่อสาร

ประโยชน์ ของอินเตอร์เน็ตนั้นมีมากมหาศาล แต่ขณะเดียวกันก็มีโทษอนันต์ถ้าใช้ผิดวิธี วันนี้ รวบรวมคำถาม-ไขข้องใจปัญหาข้อกฎหมายที่พบบ่อยว่า การใช้อินเตอร์เน็ตในทางที่ผิดรูปแบบไหน ทำให้ต้องเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง!

การใช้ “ชื่อ” และ “นามแฝง”

โลกอินเตอร์เน็ตเปิดช่องให้ผู้ใช้สามารถตั้งชื่อปลอม นามแฝง โกหกสถานะและอายุได้อย่างง่ายดาย

ในกรณีที่ใช้ “นามแฝง” ที่ตั้งขึ้นมาเองหรือไม่เกี่ยวข้องกับผู้ใดและไม่ได้เข้าไปเขียนข้อความให้ร้ายผู้อื่นคงไม่มีปัญหา

แต่ถ้านำชื่อของบุคคลอื่นมาใช้โดยเจ้าตัวไม่ได้รับรู้ จนทำให้เกิดความเสียหายจะต้องรับผิด อาจถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้

การพนันออนไลน์

ตามกฎหมายแบ่งแยกการพนันออกเป็น 2 ประเภท โดยแยกออกเป็น บัญชี ก. และ บัญชี ข.

กลุ่ม ที่อยู่ในบัญชี ก. กฎหมายห้ามเล่นโดยเด็ดขาด อาทิ พวกหวย ก.ข. ไฮโล ไพ่ต่างๆ ส่วนประเภทสองที่อยู่ในบัญชี ข. เล่นได้แต่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อน

เว็บไซต์ เกี่ยวกับการพนันออนไลน์มีนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่จะเป็นไพ่ต่างๆ และสล็อตแมชชีน ซึ่งถือเป็นการพนันตามบัญชี ก. ผู้ฝ่าฝืนก็มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 3 ปี อย่างไรก็ตาม การเล่นพนันออนไลน์ในขณะนี้ติดตามจับกุมยากและไม่คุ้มกับทรัพยากรของภาครัฐ จึงยังไม่ค่อยเห็นการดำเนินคดีอย่างจริงจัง

ความผิดของ เว็บมาสเตอร์

เว็บ มาสเตอร์ คือคำเรียกขานผู้ดูแลเว็บไซต์ต่างๆ ในกรณีมีนักท่องเน็ตเข้ามาเขียนกระทู้ โพสต์ข้อความ หรือโพสต์รูปที่ทำให้บุคคลอื่นเสียหาย รวมทั้งโพสต์ภาพอนาจาร หรือเขียนเนื้อหาพาดพิงสถาบัน ตัวนักท่องเน็ตคนนั้นถือว่ากำลังทำความผิดทางอาญา

ส่วน เว็บมาสเตอร์ ถ้าสืบสวนพบว่า เห็นข้อมูลที่สร้างปัญหา แต่ปล่อยปละละเลยไม่สนใจลบข้อความทิ้งหรือแก้ไขข้อความก็อาจถูกฟ้องร้องฐาน ร่วมกระทำความผิดด้วย เช่น เรียกค่าเสียหายทางแพ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าในเว็บไซต์ดังกล่าวไม่มีมาตรการป้องกันการกระทำผิด กฎหมาย โอกาสต้องรับโทษจะยิ่งสูงขึ้น

ลิงก์-ไฮเปอร์ลิงก์ ละเมิดลิขสิทธิ์

โลก อินเตอร์เน็ตเปิดโอกาสให้แต่ละเว็บไซต์เชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้อย่างสะดวก ง่ายดาย ผ่านระบบที่เรียกว่า “ไฮเปอร์ลิงก์” หรือ “ลิงก์”

ปัญหา อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าไปเอาข้อมูลจากเว็บไซต์อื่นๆ มาเผยแพร่ แม้จะทำลิงก์เชื่อมโยงที่มาเอาไว้ แต่ถ้าไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของเว็บปลายทางโดยตรงก็อาจมีความผิดฐานละเมิด ลิขสิทธิ์ หรือทำซ้ำงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่น

ใน สหรัฐอเมริกามีข้อถกเถียงกันในประเด็นนี้อย่างแพร่หลายถ้าจะเอาเว็บไซต์ของ คนอื่นมาลิงก์เข้ากับเว็บไซต์ของเราจะต้องไปขออนุญาตหรือไม่ ในประเทศไทยปัญหานี้ยังไม่เคยเกิดขึ้น แต่อนาคตอาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ก่อนจะนำเว็บของคนอื่นมาลิงก์เข้ากับเว็บของเราควรขออนุญาตให้เรียบร้อยก่อน

การดาวน์โหลดเพลง

เพลง ถือเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ที่ใครจะไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของไม่ได้

การอัพโหลดไฟล์ เพลงขึ้นไปอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เช่นกัน ยิ่งถ้าทำเพื่อการค้าโดยเก็บเงินจากคนที่ดาวน์โหลดเพลงนับเป็นความผิดคดี อาญา

สำหรับ คนที่ดาวน์โหลดมาฟังเฉยๆ ถือเป็นการทำซ้ำ แต่พอมีช่องทางทางกฎหมายที่จะอ้างได้ว่าไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะถือเป็นการทำซ้ำมาเพื่อใช้ประโยชน์เอง และการดาวน์โหลดมาฟังยังพอมีช่องทางต่อสู้คดีได้ว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการ ใช้ประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ของเจ้าของลิขสิทธิ์ เพราะไม่ได้เอาไปขาย

การซื้อโปรแกรมลิขสิทธิ์มาก๊อบปี้แจกผู้อื่น

เนื่องจากโปรแกรมลิขสิทธิ์ หรือโปรแกรมถูกกฎหมายมีราคาแพงมาก ทำให้ธุรกิจโปรแกรมเถื่อนละเมิดลิขสิทธิ์เฟื่องฟูยิ่งกว่าดอกเห็ด

อย่าง ไรก็ตาม แม้เราจะซื้อโปรแกรมลิขสิทธิ์มาใช้ แต่ถ้านำโปรแกรมนั้นไปแจกให้เพื่อนฝูงก๊อบปี้ หรือทำสำเนาไปใช้ต่อ ถือว่ามีความผิดฐาน “ทำซ้ำ” ซึ่งเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ แม้กฎหมายจะมีข้อยกเว้นให้การทำสำเนาโดยเจ้าของโปรแกรมมีลิขสิทธิ์ ทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ไม่ใช่การยกเว้นโดยไม่มีขอบเขต เพราะกฎหมายจำกัดจำนวนสำเนาว่าให้มีจำนวนตามสมควร เพื่อวัตถุประสงค์ในการบำรุงรักษาหรือป้องกันการสูญหาย

 

 

 

แหล่งอ้างอิง

http://itlaw2550.blogspot.com/2010/12/blog-post_6587.html

 

วิธีการโจมตีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

วิธีการโจมตีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

วันศุกร์ที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๕ เวลา ๑๖.๑๐  น. | เขียนโดย Administrator (Newnewbao) |  |  |

การโจมตีเครือข่าย
แม้ ว่าระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จะเป็นเทคโนโลยีที่น่าอัศจรรย์ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่มากถ้าไม่มีการควบคุมหรือป้องกันที่ดี การโจมตีหรือการบุกรุกเครือข่าย หมายถึง ความพยายามที่จะเข้าใช้ระบบ (Access Attack) การแก้ไขข้อมูลหรือระบบ (Modification Attack) การทำให้ระบบไม่สามารถใช้การได้ (Deny of Service Attack) และการทำให้ข้อมูลเป็นเท็จ (Repudiation Attack) ซึ่งจะกระทำโดยผู้ประสงค์ร้าย ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ หรืออาจเกิดจากความไม่ได้ตั้งใจของผู้ใช้เองต่อไปนี้เป็นรูปแบบต่าง ๆ ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีพยายามที่จะบุกรุกเครือข่ายเพื่อลักลอบข้อมูลที่สำคัญ หรือเข้าใช้ระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต

1 แพ็กเก็ตสนิฟเฟอร์
ข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ส่งผ่านเครือข่ายนั้นจะถูกแบ่งย่อยเป็นก้อนเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “แพ็กเก็ต (Packet)” แอพพลิเคชัน หลายชนิดจะส่งข้อมูลโดยไม่เข้ารหัส (Encryption) หรือในรูปแบบเคลียร์เท็กซ์ (Clear Text) ดังนั้น ข้อมูลอาจจะถูกคัดลอกและโพรเซสโดยแอพพลิเคชันอื่นก็ได้

2 ไอพีสปูฟิง
ไอ พีสปูฟิง (IP Spoonfing) หมายถึง การที่ผู้บุกรุกอยู่นอกเครือข่ายแล้วแกล้งทำเป็นว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่เชื่อ ถือได้ (Trusted) โดยอาจจะใช้ไอพีแอดเดรสเหมือนกับที่ใช้ในเครือข่าย หรืออาจจะใช้ไอพีแอดเดรสข้างนอกที่เครือข่ายเชื่อว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่ เชื่อถือได้ หรืออนุญาตให้เข้าใช้ทรัพยากรในเครือข่ายได้ โดยปกติแล้วการโจมตีแบบไอพีสปูฟิงเป็นการเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มข้อมูลเข้าไปในแพ็กเก็ตที่รับส่งระหว่างไคลเอนท์และเซิร์ฟเวอร์ หรือคอมพิวเตอร์ที่สื่อสารกันในเครือข่าย การที่จะทำอย่างนี้ได้ผู้บุกรุกจะต้องปรับเราท์ติ้งเทเบิ้ลของเราท์เตอร์ เพื่อให้ส่งแพ็กเก็ตไปยังเครื่องของผู้บุกรุก หรืออีกวิธีหนึ่งคือการที่ผู้บุกรุกสามารถแก้ไขให้แอพพลิเคชันส่งข้อมูลที่ เป็นประโยชน์ต่อการเข้าถึงแอพพลิเคชันนั้นผ่านทางอีเมลล์ หลังจากนั้นผู้บุกรุกก็สามารถเข้าใช้แอพพลิเคชันได้โดยใช้ข้อมูลดังกล่าว

3 การโจมตีรหัสผ่าน
การ โจมตีรหัสผ่าน (Password Attacks) หมายถึงการโจมตีที่ผู้บุกรุกพยายามเดารหัสผ่านของผู้ใช้คนใดคนหนึ่ง ซึ่งวิธีการเดานั้นก็มีหลายวิธี เช่น บรู๊ทฟอร์ช (Brute-Force) ,โทรจันฮอร์ส (Trojan Horse) , ไอพีสปูฟิง , แพ็กเก็ตสนิฟเฟอร์ เป็นต้น การเดาแบบบรู๊ทฟอร์ช หมายถึง การลองผิดลองถูกรหัสผ่านเรื่อย ๆ จนกว่าจะถูก บ่อยครั้งที่การโจมตีแบบบรู๊ทฟอร์ชใช้การพยายามล็อกอินเข้าใช้รีซอร์สของ เครือข่าย โดยถ้าทำสำเร็จผู้บุกรุกก็จะมีสิทธิ์เหมือนกับเจ้าของแอ็คเคาท์นั้น ๆ ถ้าหากแอ็คเคาท์นี้มีสิทธิ์เพียงพอผู้บุกรุกอาจสร้างแอ็คเคาท์ใหม่เพื่อเป็น ประตูหลัง (Back Door) และใช้สำหรับการเข้าระบบในอนาคต

4 การโจมตีแบบ Man-in-the-Middle
การ โจมตีแบบ Man-in-the-Middle นั้นผู้โจมตีต้องสามารถเข้าถึงแพ็กเก็ตที่ส่งระหว่างเครือข่ายได้ เช่น ผู้โจมตีอาจอยู่ที่ ISP ซึ่งสามารถตรวจจับแพ็กเก็ตที่รับส่งระหว่างเครือข่ายภายในและเครือข่ายอื่น ๆ โดยผ่าน ISP การโจมตีนี้จะใช้ แพ็กเก็ตสนิฟเฟอร์เป็นเครื่องมือเพื่อขโมยข้อมูล หรือใช้เซสซั่นเพื่อแอ็กเซสเครือข่ายภายใน หรือวิเคราะห์การจราจรของเครือข่ายหรือผู้ใช้

5 การโจมตีแบบ DOS
การ โจมตีแบบดีไนล์ออฟเซอร์วิส หรือ DOS (Denial-of Service) หมายถึง การโจมตีเซิร์ฟเวอร์โดยการทำให้เซิร์ฟเวอร์นั้นไม่สามารถให้บริการได้ ซึ่งปกติจะทำโดยการใช้รีซอร์สของเซิร์ฟเวอร์จนหมด หรือถึงขีดจำกัดของเซิร์ฟเวอร์ ตัวอย่างเช่น เว็บเซิร์ฟเวอร์ และเอฟทีพีเซิร์ฟเวอร์ การโจมตีจะทำได้โดยการเปิดการเชื่อมต่อ (Connection) กับเซิร์ฟเวอร์จนถึงขีดจำกัดของเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ผู้ใช้คนอื่น ๆ ไม่สามารถเข้ามาใช้บริการได้

6 โทรจันฮอร์ส เวิร์ม และไวรัส
คำ ว่า “โทรจันฮอร์ส (Trojan Horse)” นี้เป็นคำที่มาจากสงครามโทรจัน ระหว่างทรอย (Troy) และกรีก (Greek) ซึ่งเปรียบถึงม้าโครงไม้ที่ชาวกรีกสร้างทิ้งไว้แล้วซ่อนทหารไว้ข้างในแล้ว ถอนทัพกลับ พอชาวโทรจันออกมาดูเห็นม้าโครงไม้ทิ้งไว้ และคิดว่าเป็นของขวัญที่กรีซทิ้งไว้ให้ จึงนำกลับเข้าเมืองไปด้วย พอตกดึกทหารกรีกที่ซ่อนอยู่ในม้าโครงไม้ก็ออกมาและเปิดประตูให้กับทหารกรี กเข้าไปทำลายเมืองทรอย สำหรับในความหมายของคอมพิวเตอร์แล้ว โทรจันฮอร์ส หมายถึงดปรแกรมที่ทำลายระบบคอมพิวเตอร์โดยแฝงมากับโปรแกรมอื่น ๆ เช่น เกม สกรีนเวฟเวอร์ เป็นต้น

 

 

 

 

 

 

 

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมและแหล่งอ้างอิง

http://spo.moph.go.th/web/jml_ict/index.php?option=com_content&view=article&id=36:2011-02-28-02-57-41&catid=3:2010-03-19-04-33-07

ตารางสรุปเปรียบเทียบของAntivirus

ตารางสรุปเปรียบเทียบของAntivirus

ภาพ ตารางสรุปเปรียบเทียบของAntivirus


วิเคราะห์ตารางสรุปเปรียบเทียบของAntivirus
 
จากการวิเคราะห์โปรแกรมAntivirusพบว่า โปรแกรมAntivirusทุกตัว จะมีจุดประสงค์คือ การป้องกัน Virus ที่เข้ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่โปรแกรมแต่ละยี่ห้อจะมีระดับที่แตกต่างกันออกไป ดูได้จากตารางอันดับการเปรียบเทียบโปรแกรมAntivirus  ซึ่งปี2012โปรแกรมBitDefender AntiVirus ได้เป็นอันดับที่ 1 ทั้งในเรื่องของระบบการทำงาน คุณสมบัติ และการช่วยเหลือ&สนับสนุนของBitDefender AntiVirus รวมถึงสัดส่วนของผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ BitDefender AntiVirus 92.54% ก็มีเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่ายี่ห้ออื่นๆ อันดับที่2 คือโปรแกรม Kaspersky Anti-Virus ซึ่งก็มี Ratings ของระบบการทำงาน คุณสมบัติ และการช่วยเหลือ&สนับสนุน ยอดเยี่ยมเท่ากับโปรแกรมBitDefender AntiVirus แต่สัดส่วนของผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์มีเพียง 4.17% เท่านั้น
ส่วน Ratings ของระบบการทำงาน คุณสมบัติ และการช่วยเหลือของโปรแกรมAntivirus ตัวอื่นๆ ก็มีระดับ Ratings ลดหลั่นกันไปตามลำดับ ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากราคาของผลิตภัณฑ์สูง, มีการใช้ทรัพยากรของระบบค่อนข้างมาก, ไม่สามารถตรวจจับMalwareตัวเก่าๆ บางตัวได้, การตรวจจับและการตอบสนองต่อVirusไม่โดดเด่นและช้า หรือ การCommentต่างๆ ถึงข้อดี ข้อเสียจากผู้ที่เคยใช้งานโปรแกรมจริง เป็นต้น

 

Trend Micro Antivirus

TrendMicro Antivirus

                         TrendMicro เป็น ซอฟต์แวร์ แอนตี้ไวรัส ที่ก่อตั้งในปี 1988 ที่ผู้ก่อตั้งเป็นชาวไต้หวัน ชื่อนาย Steve Chang (Chang Ming-cheng) และภรรยา รวมไปถึง Jenny Chang, และพี่สาวของเขา Eva Chen แต่ว่าไปพำนักอาศัย อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็เลยกลายเป็น โปรแกรมนี้ ผลิตขึ้นจากทีมงาน ในประเทศ สหรัฐอเมริกา นั่นเอง 

ต่อมาในปี ค.ศ.1992 โดยประมาณ TrendMicro ถูกซื้อโดยนายทุนรายใหญ่จากญี่ปุ่น ซึ่งด้วยเหตุนี้เองจึง ย้ายสำนักงานใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา มาอยู่ในประเทศญี่ปุ่นในเวลาต่อมา ปัจจุบัน TrendMicro มีพนักงานอยู่มากกว่า 4 พันคน จากทั่วโลก รวมถึงมีสำนักงานขายในประเทศไทย ของเราอีกด้วย 

ด้วยเหตุนี้เอง โปรแกรมตัวนี้จึง ได้รับความนิยมมาก จากประเทศไตหวัน, สหรัฐอเมริกา รวมไปถึงประเทศญี่ปุ่น ด้วยประสิทธิภาพ และ ระบบการป้องกันไวรัส ที่ความนิยมจากองค์กร โดยสามารถป้องกันไวรัสตามจุดต่างๆ ขององค์กรได้ โดยได้รับการทดสอบ ภายใต้สภาพแวดล้อมการใช้งานจริง ซึ่งรับรองผลโดย NSS Lab หน่วยงานทดสอบ ชั้นนำของโลกที่มีความเป็นกลางในการดำเนินการทดสอบ และวัดประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์ด้านระบบรักษาความปลอดภัย 

ขอบเขตการป้องกันTrendMicro

มีระบบจัดการควบคุมไวรัสเครื่องคอมพิวเตอร์จากส่วนกลาง ที่ช่วยให้การอัพเดทโปรแกรมป้องกันไวรัสทันสมัยอยู่เสมอ โดยทำงานผ่านเน็ตเวิร์กที่มีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ตรวจสอบตลอดเวลา ทำให้มีการปกป้องเครื่องคอมพิวเตอร์ชั้นดี

ประสิทธิภาพTrendMicro

มีประสิทธิภาพการใช้งาน ในองค์กรเป็นส่วนใหญ่ โดยมีการรับรองผลจาก NSS Lab ด้วยวิธีการทดสอบรูปแบบใหม่ “Real World” และให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการใช้เทคนิคการทดสอบรูปแบบเดิมที่ไม่ได้ทดสอบ เครื่องคอมพิวเตอร์กับการป้องกันภัยคุกคามล่าสุดที่มาจากอินเทอร์เน็ต 

โดยได้ให้มาตรวัดที่สำคัญ 2 ประการ  นอกเหนือจากการตรวจจับภัยคุกคามรูปแบบแบบเดิม  คือ1.

การวัดการตรวจจับ และการปิดกั้นภัยคุกคามโดยพิจารณาจากที่มาของยูอาร์แอล (URL) ของภัยคุกคามนั้น2.

การวัดระยะห่างของช่วงเวลาระหว่างที่บริษัทผู้ค้าซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสรับ รู้ถึงภัยคุกคามที่เกิดขึ้นล่าสุด และเมื่อการป้องกันภัยคุกคามนั้นพร้อมทำงาน หรือที่เรียกว่า “Time-to-protect”

ความง่ายในการติดตั้งTrendMicro ใช้สถาปัตยกรรมไคลเอ็นต์-เซิร์ฟเวอร์มาตรฐาน ที่ประกอบด้วยส่วนควบคุมการจัดการประสิทธิภาพสูง มีการติดตั้งที่ง่าย ซอฟต์แวร์มีขนาดเล็กไม่สิ้นเปลืองทรัพยากรเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์

ความง่ายในการใช้งาน

เมื่อติดตั้งซอฟต์แวร์แล้ว ผู้ใช้จะต้องปรับค่าคอนฟิกต่างๆ ของซอฟต์แวร์เอง เช่น การอัพเดตซอฟต์แวร์ รูปแบบการสแกนไวรัส การจัดการไวรัสที่พบ การแสดงรายงานของไวรัสที่พบ เป็นต้น มีหน้าต่างการใช้งานของโปรแกรมที่เข้าใจง่าย สามารถตั้งค่าต่างๆเองได้ด้วยตัวเอง

ลักษณะการทำงาน

TrendMicro มีการทำงาน ในระบบทำงานผ่านเน็ตเวิร์กที่มีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ตรวจสอบตลอดเวลา มีโซลูชั่นการป้องกัน และกำจัดภัยคุกคามทุกรูปแบบ ครอบคลุมทุกจุดเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็น การอัพเดทการทำงานของระบบอยู่ตลอดเวลา มีการกำจัดไวรัสต่างๆที่ตรวจพบ มีการจัดทำสถิติไวรัสที่แพร่กระจายในเน็ตเวิร์ก

ระบบการป้องกันที่แข็งแกร่ง เร็วและง่ายต่อการใช้ผลิตภัณฑ์ Trend Micro Titanium Internet security ใช้ เทคโนโลยีคลาวด์ ในการหยุดยั้งไวรัสและสปายแวร์อย่างอัตโนมัติ ก่อนที่มันจะเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ รวมทั้งไม่ทำให้ประสิทธิภาพของคุณลดลงแต่อย่างใด เป็นแนวทางใหม่ที่ตะช่วยปกป้องเครื่องพีซีคุณจากภัยคุกคามทางอินเตอร์เน็ต
      http://www.thaiware.com/upload_misc/shop/2011_08/images/331_20110812163702Z7.png   อัพเดทแบบเรียลไทม์ เป็นเกราะป้องกันคุณจากภัยคุกคามใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต
http://www.thaiware.com/upload_misc/shop/2011_08/images/331_20110812163702Z7.png   ความต้องการด้านทรัพยากรของระบบที่ต่ำกว่า ทำให้เครื่องพีซีของคุณทำงานเร็วขึ้น
http://www.thaiware.com/upload_misc/shop/2011_08/images/331_20110812163702Z7.png   ออกแบบมาให้เข้าใจง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน ด้วยหน้าจอการทำงานที่เข้าใจง่าย รวมทั้งรายงานที่นำเสนอเป็นแบบกราฟฟิก
http://www.thaiware.com/upload_misc/shop/2011_08/images/331_20110812163702Z7.png   สามารถที่จะป้องกันสแปมต่าง ๆ ได้
http://www.thaiware.com/upload_misc/shop/2011_08/images/331_20110812163702Z7.png   ระบบควบคุมแบบ Parental Control ที่จะช่วยป้องกันบุตรหลานของคุณจากการใช้งานออนไลน์

  คุณและครอบครัวสามารถที่จะใช้งานอีเมลล์ และท่องเว็บได้อย่างหมดห่วง พร้อมให้คุณมั่นใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ไม่มีโซลูชันใดจะเทียบได้กับ Trend Micro Titanium Internet Security อีกแล้ว

สร้างระบบการป้องกันไวรัสที่แข็งแกร่งได้อย่างง่ายดายด้วยการกดที่ SCAN

ระบบควบคุมแบบ Parental Controls ที่ปรับแต่งได้อย่างง่ายดาย

การป้องกันการโจรกรรมข้อมูล
รายงานความปลอดภัยที่ให้ความละเอียด
สรุปTrendMicro จะนิยมการใช้งานภายในองค์กร ขนาดเล็ก เป็นส่วนใหญ่ ด้วยระบบการทำงานของซอฟต์แวร์ ที่เด่นในเรื่องของ การทำงานผ่านเน็ตเวิร์กที่มีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ตรวจสอบตลอดเวลา ทำให้องค์กรมั่นใจใช้ TrendMicro เพื่อป้องกันข้อมูล และ การโจมตีไวรัสรูปแบบต่างๆที่เข้ามาทำลายได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:: ไทยแวร์

 

 

 

AVG Anti-Virus

AVG Anti-Virus

     AVG Anti-Virus  อีกหนึ่งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสแจกฟรีที่ได้รับความนิยมสูง เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ชื่อดังของโลกซึ่ง AVG นอกจากจะมีดีเพราะความ ‘’ฟรี’’ ของมันแล้ว ยังมีความสามารถป้องกันไวรัสได้ดีไม่แพ้ของที่เสียตังค์แต่อย่างใด มีการ Update ข้อมูลไวรัสอย่างรวดเร็ว แถมยังไม่หน่วงเครื่องอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Real-time Protection เปรียบเสมือนยามค่อยเฝ้ามองไวรัสอยู่ตลอดเวลา
คุณสมบัติเฉพาะต่างๆของโปรแกรม
  • การติดตั้ง การใช้งานไม่ยากนัก และการอัพเดทข้อมูลได้ฟรีๆ
  • โปรแกรมใช้ทรัพยากรเครื่องน้อยเหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์ที่มีสเปตไม่สูงมาก
  • มีการป้องกันไวรัสอย่างครบวงจรโดยเน้นการทำงานที่รวดเร็วและไม่กินทรัพยากรเครื่อง
  • โปรแกรมมีการปรับปรุงฐานข้อมูลไวรัสอย่างรวดเร็วพร้อมใช้งาน
  • ช่วยให้ปลอดภัยจากสิ่งที่แนบที่เป็นอันตรายและการเชื่อมโยงใน e-mail
  • ป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสเวิร์ม หรือม้าโทรจัน และข้อผิดพลาดต่างๆเพื่อให้แน่ใจว่าจะปลอดภัยจากภัยคุกคามโดยอัตโนมัติ
  • สามารถสแกนไวรัสได้แบบตลอดเวลาที่ใช้งาน (Real Time) คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต
  • สามารมป้องกันกำจัดไวรัสและสปายแวร์
  • สามารถตรวจสอบอีเมล์และเว็บไซด์อันตรายได้
  • ไม่เสี่ยงต่อการถูกดักจับข้อมูล
  • ไม่ทำให้การทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ช้าลง
  •  ใช้ได้กับระบบปฎิบัติการ Windows 7, Windows Vista  และ Windows XP
   ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม

1.  เริ่มจากหลังการดาวโหลดแล้วให้ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ที่ได้ดาวโหลดมาแล้ว และคลิกปุ่ม Next
2.  ให้คลิกที่ปุ่ม Accept
3. ให้คลิกที่ปุ่ม Accept อีกครั้งเพื่อยอมรับเงื่อนไขการใช้งานโปรแกรม
 4.  โปรแกรมจะแสดงภาพตรวจสอบระบบคอมพิวเตอร์ตามภาพ
5.  การเลือกรูปแบบการติดตั้งให้เลือกเป็นแบบ Stand Installation     (ติดตั้งแบบมาตรฐาน)
6.  จะแสดงข้อมูลผู้ใช้งานและ License จากนั้นให้คลิกปุ่ม Next
 7.  เลือกติดตั้ง AVG Security Toolbar แนะนำให้ติดตั้ง จากนั้นให้คลิกปุ่ม Next
8.  จะแสดงข้อมูลก่อนการติดตั้งให้คลิกที่ปุ่ม Finish
9.  โปรแกรมจะแสดงแถบความคืบหน้าของการติดตั้ง (คอยสักพัก)
10.  ภาพแสดงการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยให้เราคลิก OK
* คลิปวีดีโอ ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม AVG Anti-Virus

 

วิธีการใช้งาน

หลังจากติดตั้งแล้วเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาจะมีหน้าต่าง ดังรูป
–    ให้คลิก Next
–      ให้คลิก Next อีกที
–  ในช่อง Low Priority เลือกถ้าหากแรมมีขนาดไม่มากนักจะทำการสแกนไปอย่างช้าๆ
– ในช่อง Hight Priority เลือกถ้าหากว่าแรมมีขนาดใหญ่ จะทำให้การสแกนเร็ว แต่อาจจะทำให้เครื่องดาวน์ลงในระหว่างที่ทำการสแกน
– ในช่อง Enable Schedualed Dialy ถ้าเลือกโปรแกรมจะทำการสแกนตามเวลาที่ได้ตั้งไว้
 (แนะนำให้ติ๊กออกแล้วเลือกสแกนเองตามต้องการ)
– จากนั้นให้คลิก Next
– จากนั้นให้คลิก Next
–    จากนั้นจะมีหน้าต่างเตือนว่าต้องการจะสแกนไวรัสตอนนี้หรือไม่ให้เลือก Next
–     จากนั้นจะมีหน้าต่างเตือนว่า
–    จากนั้นจะมีหน้าต่างดังรูป ให้คลิก Continue
–    จากนั้นจะเข้าสู่เมนูใช้งาน ดังรูป
1. Scan Computor
–  คลิกที่ปุ่มสแกนคอมพิวเตอร์เพื่อเริ่มทำการสแกน

–  หลังจากที่ทำการสแกนเสร็จแล้วหากต้องการดูข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสให้คลิกปุ่ม Detail จะได้ ดังรูป
–  จะโชว์ข้อมูลของไวรัส (ในที่นี่ไม่มีไวรัส) ให้คลิกปุ่ม close
–  จากนั้นจะมีหน้าต่างเตือน ให้คลิก ok
–  และคลิกปุ่ม yes อีกครั้ง เพื่อทำการลบไวรัส
2. Scan Selected Areas
–  เป็นการเลือกไดรว์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการจะสแกนไวรัส
–  คลิกที่ปุ่ม Scan Selected Areas
–  เลือกไดรว์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการสแกน
–  จากนั้นคลิกปุ่ม Scan Selected Areas
–  โปรแกรมจะเริ่มทำงาน
–  เมื่อทำการสแกนเสร็จแล้วให้คลิกปุ่ม Close เพื่อทำการกำจัดไวรัส
3. Check for Updates
–  เป็นการอัพเดทข้อมูลไวรัส
–  คลิกปุ่ม Check for Updates
–  จะปรากฏหน้าต่างการอัพเดทโปรแกรม ให้คลิกปุ่ม internet เพื่อดาวน์โหลด ข้อมูลไวรัส
–  จะปรากฏข้อมูลที่จำเป็นในการอัพเดทให้คลิกปุ่ม Update
–  เมื่ออัพเดทข้อมูลเสร็จแล้วให้คลิกปุ่ม ok
4. Control Center
–  เมนูด้านซ้ายมือ
–  คลิกปุ่ม Control Center
–  จะปรากฏหน้าต่าง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
5. Anti-Virus
–  เป็นส่วนในการอัพเดทข้อมูลไวรัสในโปรแกรม
6. Scheduler
–  ทำหน้าที่ในการตั้งเวลาสแกนและอัพเดทข้อมูลไวรัส
7. Resident Shield
–  เป็นระบบป้องกันไวรัสแบบเรียลไทม์
8. Virus Vault
–  เป็นเสมือนห้องคุมขังไฟล์ที่ถูกไวรัสเล่นงาน
9. Update Manager

–  เป็นการรายงานอัพเดทข้อมูลไวรัสว่าล่าสุดเมื่อไร

* คลิปวีดีโอ วิธีการใช้งานโปรแกรม AVG Anti-Virus

 

แหล่งอ้างอิง

Panda Cloud Antivirus

Panda Cloud Antivirus

Panda Cloud Antivirus
Panda Security อัพเดทโปรแกรม Panda Cloud Antivirus ซึ่งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ทำงานแบบกลุ่มเมฆ (Cloud-based antivirus) เป็นเวอร์ชัน 1.5.2 โดยการเปลี่ยนในเวอร์ชันล่าสุดนี้คือ ปรับปรุงความเร็วของการสแกนแบบ on-demand โดยเฉพาะบน Windows 7 ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Collective Intelligence backend เพื่อให้สามารถตรวจสอบมัลแวร์ใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น, ปรับทูลบาร์เป็นเวอร์ชัน 3.0 และใช้การเสิร์ชด้วย Google แทน Yahoo นอกจากนี้ยังแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ ที่มีการรายงานในชุมชนผู้ใช้อย่างเช่น โปรแกรมทำงานช้าเมื่อทำการลบไฟล์, เกิดปัญหาจอฟ้า (BSOD) เป็นบางครั้งเมื่อทำการอัปโหลดไดรเวอร์ Panda,        เกิดความผิดพลาดในการซิงค์ข้อมูล เป็นต้น
โปรแกรมนี้จึงเปรียบเสมือนกำแพงและประตูทางเข้าออกของข้อมูล ที่คอยตรวจสอบการรับส่งข้อมูลเข้าออก และค้นหาไวรัส เพื่อไม่ให้คอมพิวเตอร์เราถูกไวรัสทำลายระบบนั่นเอง
คุณสมบัติเฉพาะต่างๆ ของโปรแกรม
Ÿ  Panda Cloud Antivirus โปรแกรมแอนตี้ไวรัสกลุ่มเมฆแบบฟรีแวร์ สามารถทำหน้าที่ปกป้องผู้ใช้จากภัยคุกคามต่างๆ ในโลกออนไลน์ เช่น Worm, Virus, Trojan, Adware, Spyware และ ฯลฯ ในขณะท่องอินเทอร์เน็ตหรือทำงานต่าง หรือแม้แต่การดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ เหมือนกับโปรแกรมแอนตี้ไวรัสทั่วไป
Ÿ  Panda Cloud Antivirus นั้นแตกต่างจากโปรแกรมแอนตี้ไวรัสทั่วไป คือ การทำงานต่างๆ ของโปรแกรมจะกระทำอยู่บน Cloud ของ PandaLabs Server โดยไม่ได้ใช้ทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์ จึงส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์น้อยมาก
Ÿ  Panda Cloud Antivirus มีคุณสมบัติเด่น คือ สามารถป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ตัวใหม่ๆ ได้อย่างทันเวลา มีการใช้งานง่ายโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องยุ่งยากกับการคอนฟิกโปรแกรม แบบว่า “ติดตั้งแล้วลืม Install and forget” ดังนั้นผู้ใช้ไม่ต้องกังวลกับการอัพเดทไวรัสเดฟินิชัน (Virus Definition) การคอนฟิก (Configuration) อย่างไรก็ตามการทำงานให้ได้เต็มประสิทธิภาพจะต้องมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตแบบไฮสปีด (High Speed Internet)
Ÿ  Panda Cloud Antivirus คือการทำงานต่างๆจะอยู่ทางฝั่ง server จึงทำให้การทำงานฝั่งผู้ใช้ กินทรัพยากรของระบบน้อยมาก อีกทั้งฐานข้อมูลของไวรัส ยังอยู่บนเครือข่ายออนไลน์ที่มีการอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ
ทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสตัวใหม่ๆ และลดเวลาในการอัพเดตข้อมูลไวรัส( Virus Definition) ของเครื่องฝั่งผู้ใช้ ซึ่งแตกต่างจาก Antivirus โดยทั่วไป
ในกรณีที่เครื่องผู้ใช้ทำการสแกนไวรัสโดยไม่ได้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต Panda Cloud Antivirus จะทำงานเหมือน Antivirus ทั่วไปโดยใช้แคชของฐานข้อมูลไวรัสที่มันเก็บไว้ในการตรวจสอบ
Panda Cloud Antivirus  เวอร์ชั่น  1.5.2
การดาวน์โหลด Panda Cloud Antivirus 1.5.2
สามารถดาวน์โหลด Panda Cloud Antivirus 1.5.2 ได้ฟรีจากเว็บไซต์ Download Panda Cloud Antivirus 1.5.2
Panda Cloud Antivirus รองรับการทำงานบนระบบปฏิบัติการดังนี้
  • Windows XP SP2 หรือใหม่กว่า
  • Windows Vista 32-bit และ Windows Vista 64-bit
  • Windows 7 32-bit และ Windows 7 64-bit
ฟีเจอร์ใหม่ใน Panda Cloud Antivirus 1.5.2
ใน Panda Cloud Antivirus 1.5.2 มีการปรับปรุงและฟีเจอร์ใหม่ต่างๆ ดังนี้
  • Improved on-demand scanning speeds, specially under Windows 7.
  • Improved integration with Collective Intelligence backend to obtain new malware variants even faster.
  • New toolbar version 3.0 with Google search instead of Yahoo search.
  • Fixed slowdowns while deleting files from the computer.
  • Fixed BSOD under certain conditions when unloading one of the Panda drivers.
  • Fixed synchronization erros (same as already released hotfix).
  • Fixed issues scanning certain type of folders (as reported by AV-Comparatives)
  • Fixed upgrade notification popup showing up every 20 minutes.
  • Fixed problem of certain auxiliary files being written to the root of the drive when ProgramData directory could not be found.
  • Fixed disinfection problem under certain conditions on malware running in memory.
  • Fixed problem under certain situations when a malware detected without Internet connectivity was not recorded in the event report.
  • Fixed problems disinfecting certain malware with specific format and characteristics.
ขั้นตอนการทำงาน / วิธีใช้งาน
Panda Cloud เป็นแอนตี้ไวรัสที่ใช้งานง่ายมาก ทุกอย่างโปรแกรมจะจัดการให้เราหมด
Panda Cloud ไม่มีการสร้างไอคอนบ้านหน้าจอนะครับ แต่จะมีส่วนควบคุมอยู่ที่มุมขวาล่างของหน้าจอครับ กดคลิกขวาเพื่อเรียกเมนูครับ  จะประกอบไปด้วยเมนูต่อไปนี้
  • Quick scan
  • Full Scan
  • Email Scan
  • Scan of other items
  • Configure firewall…
  • Updae
  • Panda Endpoint Protection help
firstsecond
Quick scan เมื่อเรากดใช้งาน โปรแกรมจะเริ่มทำงานทันทีครับ ไม่มีให้เลือกปรับแต่งอะไร แบบนี้ครับ ทำงานค่อนข้างเร็วทีเดียว
quickscan
Full scan เมื่อเรากดใช้งาน โปรแกรมจะเริ่มทำงานทันทีครับ ไม่มีให้เลือกปรับแต่งอะไร แต่การสแกนจะเจาะลึกเข้าไปในระบบกว่า Quick scan จะใช้เวลาในการตรวจสอบนานกว่าครับ แต่การสแกนก็จะละเอียดกว่าเช่นกัน
Fullscan
Email scan  จะเป็นการสแกนข้อความในอีเมลทั้งหมดรวมถึงอีเมลในโฟลเดอร์ ของ Email Client ทุกโปรแกรมที่เราทำการติดตั้งลงบนคอมพิวเตอร์ของเรา
email scan
Scan of other item เป็นการระบุตำแหน่งที่เราต้องการสแกนครับ เลือกส่วนที่เราต้องการได้เจาะลงไปเลย
scan other
สรุป
ข้อดี ของ Panda Cloud Antivirus
Ÿ–  มีขนาดเล็ก ใช้ทรัพยากรน้อย
–  ตรวจสอบไวรัสใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วย Cloud Technology
–  ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากในการตั้งค่าการใช้งาน
ข้อด้อย ของ Panda Cloud Antivirus
Ÿ–  จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อทำงานร่วมกับ Panda Cloud ผ่านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
อ้างอิง

ESET NOD 32 Antivirus

 

ESET NOD 32 Antivirus  4

                    ESET NOD32 Antivirus 4 เป็นโปรแกรมรุ่นต่อมาของ ESET NOD32 Antivirus 2.* ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ โปรแกรมนี้ใช้ความเร็วในการสแกนและความแม่นยำของ ESET NOD32 Antivirus ซึ่งได้รับสิทธิ์จากกลไกลการสแกนของ ThreatSense® เวอร์ชันล่าสุดเทคนิค ขั้นสูงที่นำมาใช้งานจะมีความสามารถในการปิดกั้นในเชิงรุกสำหรับไวรัส สปายแวร์ โทรจัน เวิร์ม แอดแวร์ และรูทคิท โดยไม่ทำให้ระบบทำงานช้าลง หรือรบกวนคุณขณะทำงานหรือเล่นคอมพิวเตอร์
1มีอะไรใหม่ด้วย ประสบการณ์อันยาวนานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของผู้เชี่ยวชาญของเรา ทำให้เราพัฒนาสถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมดของโปรแกรม ESET NOD32 Antivirus ซึ่งสามารถรับประกันการตรวจพบสูงสุด โดยที่ความต้องการของระบบไม่สูงมากนักการป้องกันไวรัสและสปายแวร์โม ดูลนี้สร้างขึ้นจากกลไกการสแกนของ ThreatSense®ซึ่งใช้เป็นครั้งแรกในระบบ NOD 32 Antivirus ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ กลไกของ ThreatSense® ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงด้วยสถาปัตยกรรมใหม่ของ ESET NOD32 Antivirus

  • คุณลักษณะ
  • การกำจัดที่ดียิ่งขึ้นระบบป้องกันไวรัสในปัจจุบันสามารถกำจัดและลบการบุกรุกที่ตรวจพบส่วนใหญ่ได้อย่างชาญฉลาด โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องดำเนินการใดๆ
  • โหมดการสแกนเบื้องหลังการสแกนคอมพิวเตอร์สามารถทำงานอยู่เบื้องหลัง โดยไม่ลดประสิทธิภาพการทำงาน
  • ไฟล์อัพเดทที่เล็กลงกระบวน การเพิ่มประสิทธิภาพหลักจะทำให้ขนาดของไฟล์อัพเดทมีขนาดเล็กลงกว่าเวอร์ชัน 2.7 นอกจากนี้ การป้องกันไฟล์อัพเดทจากความเสียหายยังดียิ่งขึ้นด้วย
  • การป้องกันอีเมลไคลเอ็นต์ที่ได้รับความนิยมคุณ สามารถสแกนข้อความขาเข้าไม่ใช่เฉพาะ MS Outlook เท่านั้น แต่ยังรวมถึง Outlook Express, Windows Mail, Windows Live Mail และ Mozilla Thunderbird
  • สิ่งอื่นๆ ที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยการเข้าถึงระบบไฟล์โดยตรงเพื่อความรวดเร็วและผลลัพธ์ที่ดีขึ้นการปิดกั้นการเข้าถึงไฟล์ที่ติดไวรัสการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ Windows Security Center รวมถึง Vista
• อื่นๆ
  • ESET SysRescue ช่วย ให้ผู้ใช้สามารถสร้าง CD/DVD/USB ที่บูตได้ ซึ่งมี ESET NOD32 Antivirus ที่สามารถเรียกใช้โดยไม่ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกำจัดการบุกรุกที่ขจัดออกยากให้ออกจากระบบ
  • ESET SysInspectorเป็น แอพพลิเคชันที่ตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของคุณอย่างละเอียด ซึ่งได้ผสานรวมกับ ESET NOD32 Antivirus โดยตรง หากคุณติดต่อฝ่ายดูแลลูกค้าของเราโดยใช้ตัวเลือก วิธีใช้และการสนับสนุน > คำขอการสนับสนุนจากฝ่ายดูแลลูกค้า (แนะนำ) คุณสามารถเลือกที่จะรวมภาพบันทึกสถานะของ ESET SysInspector จากคอมพิวเตอร์ของคุณได้
  • การป้องกันเอกสารจะ สแกนเอกสาร Microsoft Office ก่อนที่จะเปิด รวมถึงไฟล์ที่ดาวน์โหลดจาก Internet Explorer โดยอัตโนมัติ เช่น องค์ประกอบ Microsoft ActiveX
  • การป้องกันตนเองเป็นเทคโนโลยีใหม่จะป้องกันองค์ประกอบของ ESET NOD32 Antivirus ให้พ้นจากการปิดการใช้งาน
  • ส่วนติดต่อผู้ใช้สามารถทำงานใน โหมดที่ไม่ใช่กราฟฟิก ซึ่งคุณสามารถใช้ตัวควบคุมแป้นพิมพ์ของ ESET NOD32 Antivirus ความสามารถในการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชันอ่านหน้าจอที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้ที่ มีปัญหาทางสายตาสามารถควบคุมโปรแกรมได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
1.2 ความต้องการของระบบ
             ความต้องการของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำให้ ESET NOD32 Antivirus ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดดังนี้
             ESET NOD32 Antivirus:Windows NT4 SP6, 2000, XP400 MHz 32 บิต / 64 บิต (x86 / x64)
RAM หน่วยความจำระบบ 128 MBพื้นที่ว่าง 130MBSuper VGA (800 × 600)
             Windows 7, Vista 1 GHz 32 บิต / 64 บิต (x86 / x64)RAM หน่วยความจำระบบ 128 MB
พื้นที่ว่าง 130MBSuper VGA (800 × 600)
             ESET NOD32 Antivirus Business Edition:Windows NT4 SP6, 2000, 2000 Server, XP, 2003 Server 400 MHz 32 บิต / 64 บิต (x86 / x64)RAM หน่วยความจำระบบ 128 MBพื้นที่ว่าง 130MB
Super VGA (800 × 600)
            Windows 7, Vista, Windows Server 2008  1 GHz 32 บิต / 64 บิต (x86 / x64)
RAM หน่วยความจำระบบ 512 MBพื้นที่ว่าง 130MB Super VGA (800 × 600)
2. การติดตั้ง
             หลังจากที่คุณซื้อผลิตภัณฑ์ ESET NOD32 Antivirus คุณสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมติดตั้งได้จากเว็บไซต์ของ ESET เป็นแพ็คเกจ .msi เริ่มต้นโปรแกรมการติดตั้ง และวิซาร์ดการติดตั้งจะนำคุณเข้าสู่การตั้งค่าพื้นฐาน การติดตั้งมีสองแบบที่ใช้ได้ โดยมีระดับของรายละเอียดการตั้งค่าแตกต่างกัน:
1. การติดตั้งปกติ
2. การติดตั้งแบบกำหนดเอง
2.1 การติดตั้งปกติ
            ขอแนะนำการติดตั้งปกติให้สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการติดตั้ง ESET NOD32 Antivirus ที่มีการตั้งค่าปกติ การตั้งค่าเริ่มต้นของโปรแกรมจะให้ระดับการป้องกันสูงสุด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการกำหนดการตั้งค่าที่มีรายละเอียดขั้น ตอนแรก (สำคัญมาก) คือการป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเพื่อการอัพเดทโปรแกรมโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการให้การป้องกันระบบที่แน่นอน
                    ป้อน ชื่อผู้ใช้ และ รหัสผ่าน ของคุณลงในช่องว่างที่กำหนด เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ที่คุณได้รับหลังจากซื้อหรือลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ หากในขณะนี้ คุณไม่มีชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่าน ให้เลือกตัวเลือก ตั้งค่าพารามิเตอร์การอัพเดทในภายหลัง คุณสามารถป้อนข้อมูลการตรวจสอบสิทธิ์ได้ในภายหลัง จากโปรแกรมได้โดยตรง
                    ขั้นตอนถัดไปในการติดตั้งคือการกำหนดค่าของระบบการเตือนล่วงหน้า ThreatSense.
Net ระบบการเตือนล่วงหน้า ThreatSense.Net ช่วยให้แน่ใจได้ว่า ESET จะได้รับการแจ้งในทันทีและอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการบุกรุกใหม่เพื่อการ ป้องกันได้อย่างรวดเร็ว ระบบจะส่งข้อมูลการคุกคามใหม่ไปยังแล็บไวรัสของ ESET ซึ่งจะมีการวิเคราะห์ ดำเนินการ และเพิ่มลงในฐานข้อมูลไวรัส
                   ตามค่าเริ่มต้น โปรแกรมจะเลือกช่องทำเครื่องหมาย เปิดใช้ระบบการเตือนล่วงหน้า ThreatSense.Net ซึ่งจะเปิดการใช้งานคุณลักษณะนี้ คลิก การตั้งค่าขั้นสูง… เพื่อแก้ไขการตั้งค่าที่เป็นรายละเอียดสำหรับการส่งไฟล์ที่น่าสงสัย
ขั้นตอนต่อไปในกระบวนการติดตั้งคือการกำหนดค่า การตรวจหาแอพพลิเคชันที่อาจไม่พึงประสงค์ แอพพลิเคชันที่อาจไม่พึงประสงค์ไม่จำเป็นจะต้องเป็นแอพพลิเคชันที่อันตราย แต่จะมีผลในเชิงลบต่อการทำงานของระบบปฏิบัติการแอพพลิเคชัน เหล่านี้มักจะมาพร้อมกับโปรแกรมอื่น และอาจสังเกตได้ยากในระหว่างกระบวนการติดตั้ง แม้ว่าแอพพลิเคชันเหล่านี้มักจะแสดงการแจ้งเตือนระหว่างการติดตั้ง แต่แอพพลิเคชันสามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องมีการยินยอมจากคุณ
                เลือกตัวเลือก เปิดใช้งานการตรวจหาแอพพลิเคชันที่อาจไม่พึงประสงค์ เพื่อช่วยให้ ESET NOD32 Antivirus สามารถตรวจหาการคุกคามประเภทนี้
ขั้นตอนสุดท้้ายในโหมดการติดตั้งปกติคือการยืนยันการติดตั้งด้วยการคลิกที่ปุ่ม ติดตั้ง
2.2 การสแกนคอมพิวเตอร์ตามต้องการ
หลังจากการติดตั้ง ESET NOD32 Antivirus การสแกนคอมพิวเตอร์ควรเริ่มทำงานเพื่อค้นหาภัยคุกคาม ในการเริ่มต้นการสแกนอย่างรวดเร็ว ให้เลือก การสแกนคอมพิวเตอร์ จากเมนูหลัก และเลือก สแกนแบบมาตรฐาน ในหน้าต่างหลักของโปรแกรม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณลักษณะการสแกนคอมพิวเตอร์ โปรดดูที่บท “การสแกนคอมพิวเตอร์”

วีดีโอแนะนำการสแกน

3. คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

     บทนี้จะแสดงภาพรวมเริ่มต้นของ ESET NOD32 Antivirus และการตั้งค่าพื้นฐานของโปรแกรม
        3.1 แนะนำส่วนติดต่อผู้ใช้ – โหมด
           หน้าต่างหลักของ ESET NOD32 Antivirus จะแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก คอลัมน์ด้านซ้ายจะช่วยให้สามารถเข้าถึงเมนูหลักที่ใช้งานง่าย หน้าต่างหลักของโปรแกรมทางด้านขวาจะแสดงข้อมูลมากกว่า ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่ตรงกับตัวเลือกที่เลือกในเมนูหลัก
คำอธิบายของปุ่มภายในเมนูหลักมีดังต่อไปนี้:
            สถานะการป้องกัน – ในรูปแบบที่ใช้งานง่าย ซึ่งจะมีข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการป้องกันของ ESET NOD32 Antivirus หากมีการเปิดใช้งานโหมดขั้นสูง สถานะของโมดูลการป้องกันทั้งหมดจะปรากฏขึ้น คลิกที่โมดูลเพื่อดูสถานะปัจจุบัน
            การสแกนคอมพิวเตอร์ – ตัวเลือกนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถก��ำหนดค่าและเิปิดใช้การสแกนของคอมพิวเตอร์ตามต้องการ
            อัพเดท – เลือกตัวเลือกนี้เพื่อเข้าถึงโมดูลการอัพเดทที่จัดการการอัพเดทฐานข้อมูลไวรัส
            ตั้งค่า – เลือกตัวเลือกนี้เพื่อปรับระดับการรักษาความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ของคุณ หากมีการเปิดใช้โหมดขั้นสูง เมนูย่อยของโมดูลการป้องกันไวรัสและสปายแวร์จะปรากฏขึ้น
             เครื่องมือ – ตัวเลือกนี้สามารถใช้งานได้ในโหมดขั้นสูงเท่านั้น ซึ่งจะให้การเข้าถึงไฟล์บันทึก การกักเก็บ และเครื่องมือวางกำหนดการ
            วิธีใช้และการสนับสนุน – เลือกตัวเลือกนี้เพื่อเข้าถึงไฟล์วิธีใช้ ฐานความรู้ ESET เว็บไซต์ของ ESET และการเข้าถึงคำขอรับการสนับสนุนของฝ่ายดูแลลูกค้า
              ส่วนติดต่อผู้ใช้ของ ESET NOD32 Antivirus จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับระหว่างโหมดมาตรฐานและขั้นสูง เมื่อต้องการสลับระหว่างทั้งสองโหมด โปรดดูที่ลิงค ์แสดง ซึ่งอยู่ที่มุมซ้ายล่างของหน้าต่างหลักของ ESET NOD32 Antivirus คลิกปุ่มนี้เพื่อเลือกโหมดการแสดงผลที่ต้องการ
                  โหมดมาตรฐานจะให้การเข้าถึงคุณลักษณะที่ต้องการสำหรับการดำเนินการทั่วไป ซึ่งจะไม่แสดงตัวเลือกขั้นสูง
              การสลับไปยังโหมดขั้นสูงจะเพิ่มตัวเลือก เครื่องมือ ไปที่เมนูหลัก ตัวเลือกเครื่องมือจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเครื่องมือวางกำหนดการ การกักเก็บ หรือดูไฟล์บันทึกของ ESET NOD32 Antivirus
3.1.1 การตรวจสอบการทำงานของระบบ
            ในการดู สถานะการป้องกัน ให้คลิกที่ตัวเลือกนี้ที่ด้านบนของเมนูหลัก เมนูย่อย การป้องกันไวรัสและสปายแวร์ จะปรากฏที่ด้านล่าง และข้อมูลสรุปเกี่ยวกับการทำงานของ ESET NOD32 Antivirus จะปรากฏในหน้าต่างหลักของโปรแกรม คลิกที่การป้องกันไวรัสและสปายแวร์ และหน้าต่างหลักของโปรแกรมจะแสดงสถานะของโมดูลการป้องกันแต่ละรายการ
4 การอัพเดทโปรแกรม
           การอัพเดทระบบเป็นประจำเป็นวิธีการพื้นฐานสำหรับรับระดับการรักษาความ ปลอดภัยสูงสุดที่ ESET NOD32 Antivirus มีให้ โมดูลการอัพเดทจะดำเนินการให้มั่นใจว่าโปรแกรมนั้นมีความทันสมัยอยู่เสมอ โดยใช้สองวิธี คือโดยอัพเดทฐานข้อมูลไวรัส และโดยอัพเดทองค์ประกอบของระบบ
            คุณสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการอัพเดทปัจจุบันโดยคลิกที่ อัพเดท ซึ่งจะรวมถึงการดูเวอร์ชันปัจจุบันของฐานข้อมูลไวรัสและดูว่าต้องมีการอัพเด ทหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกที่จะเปิดการใช้งานกระบวนการอัพเดททันที – อัพเดทฐานข้อมูลไวรัส – และตัวเลือกการตั้งค่าการอัพเดทพื้นฐาน เช่น ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่จะเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์การอัพเดทของ ESET
             หน้าต่างข้อมูลยังมีรายละเอียด เช่น วันที่และเวลาของการอัพเดทสำเร็จครั้งล่าสุด และหมายเลขของฐานข้อมูลไวรัส การแสดงตัวเลขนี้เป็นลิงค์ไปยังเว็บไซต์ของ ESET ซึ่งจะแสดงรายการฐานข้อมูลทั้งหมดที่เพิ่มไว้ภายในวันที่ที่กำหนด
             ใช้ลิงค์ ลงทะเบียน เพื่อเปิดฟอร์มการลงทะเบียน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถลงทะเบียนใบอนุญาตใหม่ของคุณกับ ESET และโปรแกรมจะส่งข้อมูลการตรวจสอบสิทธิ์ของคุณทางอีเมลในภายหลัง
              หมายเหตุ: ESET จะให้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านหลังจากการซื้อ ESET NOD32 Antivirus
4.2.1 ตั้งค่าการอัพเดท
              ส่วนการตั้งค่าการอัพเดทจะระบุข้อมูลที่มาของการอัพเดท เช่น เซิร์ฟเวอร์การอัพเดทและข้อมูลการตรวจสอบสิทธิ์สำหรับเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ ตามค่าเริ่มต้น ฟิลด์ เซิร์ฟเวอร์การอัพเดท: จะถูกตั้งค่าเป็น เลือกโดยอัตโนมัติ ค่านี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าไฟล์การอัพเดทจะได้รับการดาวน์โหลดโดยอัตโนมัติ จากเซิร์ฟเวอร์ของ ESET พร้อมกับภาระการรับส่งข้อมูลในเครือข่าย ตัวเลือกการตั้งค่าการอัพเดทจะใช้ได้จากโครงสร้างการตั้งค่าขั้นสูง (F5) ใน อัพเดท
 รายการของเซิร์ฟเวอร์การอัพเดทที่มีอยู่จะเข้าถึงได้จากเมนูแบบดรอปดาวน์ เซิร์ฟเวอร์การอัพเดท: ถ้าต้องการเพิ่มเซิร์ฟเวอร์การอัพเดทใหม่ ให้คลิก แก้ไข… ในส่วน อัพเดทการตั้งค่าสำหรับโปรไฟล์ที่เลือก จากนั้นคลิกที่ปุ่ม เพิ่ม
             การตรวจสอบสิทธิ์สำหรับเซิร์ฟเวอร์การอัพเดทจะให้สิทธิ์โดย ชื่อผู้ใช้ และ รหัสผ่าน ซึ่งสร้างขึ้นและส่งถึงผู้ใช้โดย ESET หลังจากการซื้อใบอนุญาตของผลิตภัณฑ์
4.2.1.1 โปรไฟล์การอัพเดท
             สำหรับการกำหนดค่าการอัพเดทแบบต่างๆ เป็นไปได้ที่จะสร้างโปรไฟล์การอัพเดทที่ผู้ใช้กำหนด ซึ่งสามารถใช้สำหรับงานการอัพเดทหนึ่งๆ ได้ การสร้างโปรไฟล์การอัพเดทที่แตกต่างกันนั้นจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ที่ ต้องเดินทางบ่อย เนื่องจากคุณสมบัติการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีการเปลี่ยนแปลงเป็นประจำ เมื่อปรับเปลี่ยนงานการอัพเดท ผู้ใช้ที่เดินทางบ่อยจะสามารถระบุว่าไม่สามารถอัพเดทโปรแกรมโดยใช้การกำหนด ค่าที่ระบุใน โปรไฟล์ของฉัน การอัพเดทจะทำงานโดยใช้โปรไฟล์อื่น
เมนูแบบดรอปดาวน์ โปรไฟล์ที่เลือก จะแสดงโปรไฟล์ที่เลือกไว้ในปัจจุบัน ตามค่าเริ่มต้น รายการนี้จะถูกตั้งค่าเป็น โปรไฟล์ของฉัน ถ้าต้องการสร้างโปรไฟล์ใหม่ ให้คลิกปุ่ม โปรไฟล์… จากนั้นคลิกที่ปุ่ม เพิ่ม… และป้อน ชื่อโปรไฟล์ ของคุณเอง เมื่อสร้างโปรไฟล์ใหม่ คุณสามารถคัดลอกการตั้งค่าจากการตั้งค่าที่มีอยู่แล้ว ด้วยการเลือกจากเมนูแบบดรอปดาวน์ คัดลอกการตั้งค่าจากโปรไฟล์:
ภายในการตั้งค่าโปรไฟล์ คุณจะสามารถระบุเซิร์ฟเวอร์การอัพเดทที่โปรแกรมจะเชื่อมต่อและดาวน์โหลด การอัพเดท คุณสามารถใช้เซิร์ฟเวอร์จากรายการของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ได้ หรือจะเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ใหม่ก็ได้ รายการของเซิร์ฟเวอร์การอัพเดทที่มีอยู่จะเข้าถึงได้จากเมนูแบบดรอปดาวน์ เซิร์ฟเวอร์การอัพเดท: ถ้าต้องการเพิ่มเซิร์ฟเวอร์การอัพเดทใหม่ ให้คลิก แก้ไข… ในส่วน ตั้งค่าการอัพเดทสำหรับโปรไฟล์ที่เลือก จากนั้นคลิกที่ปุ่ม เพิ่ม

วีดีโอแนะนำการอัพเดต

cs]

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมและแหล่งอ้างอิงจาก

http://www.downloaddd.com/security-software/420-nod32-antivirus-4.0.417.html

 

 

วีดีโอแนะนำการสแกน