ประโยชน์ของ SAP ต่อวงการธุรกิจ

ประโยชน์ของ SAP ต่อวงการธุรกิจ

1. SAP คือระบบที่ ที่ใช้งานได้ง่ายทั่วไป

2. SAP สามารถรวบรวมระบบและเก็บบันทึกการกระทำของข้อมูลที่เวลาจริง (Real Time system )

3. SAP คือระบบที่ ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลง และ ปรับปรุง

4. SAP คือระบบที่ ทำให้ขั้นตอนของธุรกิจ กระชับ และ รวดเร็วขึ้น

5. SAP คือระบบที่ สามารถเชื่อมต่อกับ Software อื่นๆได้เช่น ระบบ Barcode, RFID , Excel หรือ PLC เป็นต้น

SAP เป็นระบบขนาดใหญ่ที่ได้รวมเอาโซลูชั่นต่างๆ เข้ามารวมไว้ในระบบ โดยสามารถเขียนโปรแกรมให้ทำงานเฉพาะโซลูชั่นที่ต้องการได้ และหากมีหลายโซลูชั่นก็สามารถนำข้อมูลไปใช้ร่วมกันได้ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม ปัจจุบันนี้โปรแกรมเมอร์มากมายต่างหันมาสนใจ SAP กันมากขึ้น โซลูชั่นที่ SAP รองรับนั้นมีมากมาย อาทิ ระบบไฟแนนซ์ ระบบบริหารงานบุคคล ระบบลูกค้าสัมพันธ์ ระบบบัญชี ระบบสินค้าคงคลัง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการนำไปประยุกต์ใช้กับระบบคนไข้ในโรงพยาบาลบางแห่ง โดยระบบงานต่างๆ ในแต่ละส่วนเหล่านี้เอง คือ ส่วนที่เรียกว่า “โมดูล”

หากคุณจะเริ่มศึกษา SAP นั้นคุณจะต้องทราบก่อนว่าคุณจะศึกษาในส่วนใด และนำไปใช้กับงานลักษณะใด ซึ่ง SAP จะแบ่งระบบงานต่างๆ แยกย่อยเป็นโมดูล ซึ่งแต่ละโมดูลเป็นอิสระต่อกัน และสามารถนำเอาข้อมูลในแต่ละส่วนมาเชื่อมโยงกันได้

1. Sales And Distribution (SD) เป็นเรื่องของ Sale ทั้งหมด ตั้งแต่การับ Order ลูกค้าจนถึงส่งของให้ลูกค้า

2. Material Management (MM) เป็นเรื่องของการจัดการเกี่ยวกับ Raw Material ทั้งหมด

3. Production Planning (PP) เป็นเรื่องของ Schedule การผลิตหรือ วางแผนการผลิตว่าจะผลิตเท่าไหร่   เป็นส่วนของ MRP

4. Quality Management (QM) เป็นเรื่องของการตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบ และ Product ต่างๆ

5. Plant Maintenance (PM)เป็นเรื่องการ Manage เครื่องจักรหรือ Resource ต่างๆ

6. Human Resource (HR) เป็นเรื่องการจัดการกับคน รวมถึงเงินเดือน และสวัสดิการต่างๆ

7. Financial Account (FI) เป็นการทำบัญชีสำหรับคนภายนอก เช่น รายงานส่งสรรพากร

8. Controlling (CO) เป็นการทำบัญชีสำหรับภายใน เช่น รายงานสำหรับผู้บริหารที่ใช้ในการตัดสินใจ

9. Asset Management (AM) เป็นการบริหาร Fixed Asset ต่างๆ ได้แก่ เครื่องจักร รวมถึงการคิดค่าเสื่อมราคา

10. Project System (PS) เป็นการบริหาร Project จะเก็บข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับ Project และนำไปเชื่อมต่อกับ Module ต่างๆเช่นเงินลงทุนจะไปเชื่อมกับ FI เป็นต้น

11. Workflow (WF) เป็นเรื่องของ Workflow ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่าง Auto เช่น ส่งคำสั่งผ่าน E-Mail

12. Industry Solution (IS) เป็น Module เพิ่มเติมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละ Industry

ใส่ความเห็น